สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(14 มิถุนายน 2559)—ALTมีแผนจะขายไอพีโอ250ล้านหุ้น ช่วงปลายมิ.ย./เทรดต้นก.ค.59 ฟินันเซียฯคาดหุ้นALT รายย่อย-สถาบัน สนใจอื้อ เหตุเป็นผู้นำฯครบวงจร-3ปี CARG109.54% “ปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์” ชูจุดเด่นเป็นผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมแบบครบวงจรและมีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ขณะที่แนวโน้มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมโตต่อเนื่องทุกปี หนุนผลประกอบการ ALT พุ่งแรงตามไปด้วย สุดปลื้มโรดโชว์5จังหวัดและสถาบัน ผลตอบรับดีมาก คาดช่วงเปิดจองสุดคึก ระบุเงินIPO ลงทุนโครงข่ายเคเบิลใยแก้วฯให้เช่า-คืนหนี้-เป็นทุนหมุนเวียน พร้อมคาดโครงการวางสายเคเบิลในแก้วนำแสงพาดเสาโทรเลข ซึ่งตั้งอยู่ตามแนวรางรถไฟทั่วประเทศ เปิดบริการเชิงพาณิชย์Q3/59
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด(มหาชน)ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบมจ.เอแอลที เทเลคอมALTเปิดเผยว่า หุ้นALT จะเปิดจองหุ้นIPO250ล้านหุ้นได้ปลายเดือนมิถุนายนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต้นเดือนกรกฎาคม ส่วนช่วงราคาเสนอหุ้นไอพีโอ จะทราบวันพฤหัสฯที่16มิถุนายนนี้
นางปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) (ALT) ผู้ประกอบธุรกิจโทรคมนาคมแบบครบวงจร เปิดเผยว่า จากการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ให้แก่นักลงทุนรายย่อย 5 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี สงขลา เชียงใหม่ ขอนแก่น และกรุงเทพฯ และนักลงทุนสถาบัน ในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนดีมาก ซึ่งสะท้อนว่านักลงทุนให้ความสนใจในธุรกิจของบริษัทฯ อีกทั้งเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจและมองเห็นถึงศักยภาพที่จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต ทำให้มั่นใจว่าในช่วงที่เปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอกระแสตอบรับจากนักลงทุนจะเป็นไปอย่างคึกคักเช่นกัน
จากการโรดโชว์ที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันได้ให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังข้อมูลเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดี โดยได้นำเสนอข้อมูลในเชิงพื้นฐานของธุรกิจ เพื่อให้นักลงทุนเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และได้เน้นย้ำถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากการวางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจโดยบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนผลประกอบการจากธุรกิจให้เช่าโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม ซึ่งมีลักษณะเป็นรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้มีสัดส่วน 50% ของผลประกอบการรวมของกลุ่มบริษัทฯ ภายใน 5 ปี ส่งผลทำให้ผลประกอบการของบริษัทฯ มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง ผนวกกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีอัตราการขยายตัวต่อเนื่องทุกปี ทำให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม” นางปรีญาภรณ์ กล่าวในที่สุด
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ ALT เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะสามารถเปิดจองซื้อหุ้น IPO ได้ปลายเดือนมิถุนายน และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ต้นเดือนกรกฎาคมนี้ สาเหตุหลักที่ทำให้บริษัทฯ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันอย่างมาก เนื่องจาก ALT เป็นผู้นำในการจำหน่ายสินค้าและให้บริการโทรคมนาคมอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ เป็นการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน อีกทั้ง ALT ยังเป็นพันธมิตรที่ดีของ Operator จากทุกเครือค่ายโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของประเทศอีกด้วย ขณะเดียวกันในด้านของผลประกอบการ ถือว่า ALT มีความสามารถทำกำไรได้อย่างโดดเด่น โดยในปี 2556–2558 กำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงถึงร้อยละ 109.54 นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) ของบริษัทฯ ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากร้อยละ 14 ในปี 2556 เป็นร้อยละ 47.26 ในไตรมาส 1 ปี 2559 แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพและความสามารถในการทำกำไรของกลุ่มบริษัทฯ อยู่ในระดับที่ดีมาก
“ด้วยความโดดเด่นที่มีมากมายของ ALT ทำให้ผมมั่นใจว่าไอพีโอน้องใหม่รายนี้จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะปัจจัยสนันสนุนจากศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ จากธุรกิจให้เช่าโครงข่ายพื้นฐานโทรคมนาคม ซึ่งรวมถึงแผนการลงทุนในโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงให้เช่าบนแนวเสาโทรเลขตามทางรถไฟ ซึ่งจะทำให้กลุ่มบริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายให้เช่าที่มีโครงข่ายพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าได้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย และส่งผลให้ผลประกอบการของ ALT มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย” นายสมภพ กล่าวในที่สุด
ด้านนายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินกล่าวว่า ALT ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม เพราะอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งกลุ่มผู้ประกอบการที่เป็น operator ต่างก็มีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีเพื่อพัฒนาศักยภาพของบริษัทฯ ให้ก้าวทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น จึงส่งผลให้ ALT ได้รับงานใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและขยายตัวตามไปด้วย
“ALT มีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านโทรคมนาคม มีความยืดหยุ่นในการประกอบธุรกิจ มีธรรมาภิบาลที่ดี มองการณ์ไกล ทำให้สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งมาได้จนถึงวันนี้ อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย มีช่องทางการสร้างรายได้ทั้งงานขาย งานให้บริการ และงานให้เช่าโครงข่าย ซึ่งทำให้ ALT เป็นธุรกิจครบวงจร และเป็นบริษัทที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก” นายวรชาติ กล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 375 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 750 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จำนวน 250 ล้านหุ้น บริษัทจะมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 500 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้ในการลงทุนโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อต่อยอดธุรกิจตามที่บริษัทฯ ได้วางแผนไว้
นายสมภพเปิดเผยว่า หุ้นALT จะเปิดจองหุ้นIPO จำนวน 250ล้านหุ้นได้ปลายเดือนมิถุนายนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต้น เดือนกรกฎาคม นี้
อีกทั้ง สาเหตุที่นักลงทุนรายย่อยและสถาบันให้ความสนใจจำนวนมาก เนื่องจากALT เป็นผู้นำจำหน่ายสินค้าและให้บริการโทรคมนาคมอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
ทั้งนี้ALTถือว่ามีความสามารถทำกำไรอย่างโดดเด่น โดยปี2556-2558 กำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ยต่อปี(GAGR)สูงถึง109.54%และอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น(ROE)เพิ่มขึ้นจาก14%ในปี2556เป็น47.26%ในไตรมาสแรกปีนี้
ด้าน นางปรีญาภรณ์เปิดเผยว่า การโรดโชว์หุ้นALTให้นักลงทุนรายย่อย5จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี สงขลา เชียงใหม่ ขอนแก่นและกรุงเทพและนักลงทุนสถาบัน ปรากฎว่า ได้รับการตอบรับดี ทำให้เชื่อมั่นในช่วงเปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอ กระแสการตอบรับจากนักลงทุน จะเป็นไปอย่างคึกคัก
“รายย่อยและสถาบันสนใจฟังข้อมูลALTจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดีและบริษัทฯย้ำการเติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทฯมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนผลประกอบการจากธุรกิจให้เช่าโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม ซึ่งมีลักษณะเป็นรายได้ประจำให้มีสัดส่วน50%ของกลุ่มบริษัทฯภายใน5ปี”นางปรีญาภรณ์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทจะนำ เงินที่ได้จากขายหุ้น IPO จะนำไปลงทุนในโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงเพื่อให้เช่า,ชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมและใช้เป็นทุนหมุนเวียน
ส่วนนโยบายการจ่ายเงินปันผล ไม่น้อยกว่า40%ของกำไรสุทธิหลังภาษีเงินได้และสำรองต่างๆ สำหรับโครงการอนาคต โครงการวางสายเคเบิลในแก้วนำแสงพาดเสาโทรเลข ซึ่งตั้งอยู่ตามแนวรางรถไฟทั่วประเทศ มีระยะเวลาวางโครงข่าย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส2/59และระยะเวลาเริ่มให้บริการคาดว่า จะเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส3/59
ทั้งนี้ระยะที่1 โครงข่ายเส้นทางภาคใต้ ใช้เงินลงทุน200ล้านบาท แหล่งเงินทุนมาจากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน,ระยะที่2 เส้นทางภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้เงินลงทุน250ล้านบาท แหล่งเงินทุนมาจากIPOและเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
เขากล่าวด้วยว่า ผลประกอบการไตรมาส1/59มีรายได้จากการดำเนินงาน575.34ล้านบาท กำไรสุทธิ64.73ล้านบาท ส่วนปี2558 มีรายได้จากการดำเนินงาน2,600.20ล้านบาท กำไรสุทธิ220.16ล้านบาท
—จบ—
( ธนัสสรณ์ เปี่ยมสมบูรณ์ เรียบเรียง ;โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ) ที่มา: หุ้นอินไซด์